ใครๆ จะอดใจไหวที่จะไม่เลี้ยงน้องหมาไซส์เล็กหน้าตาน่ารักอย่างชิสุที่เหล่าคนรักน้องหมานิยมเลี้ยงกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉลี่ยน้องๆ จะมีอายุไขอยู่ที่ 12-20 ปี แต่คุณเจ้าของรู้มั้ยว่า น้องหมาพันธุ์นี้มากับ 5 โรคที่ต้องระวังกันเลยทีเดียว มาดูกันดีกว่าว่า 5 โรคที่น้องหมาชิสุห์ต้องระวังมีอะไรบ้าง เพื่อให้คุณเจ้าของได้สังเกต และดูแลน้องๆ ให้สุขภาพดี และอยู่กับเราไปนานๆ ครับ
ด้วยโครงสร้างหน้าที่สั้น จึงส่งผลให้น้องมีเบ้าตาตื้นกว่าปกติ ทำให้ดวงตาที่กลมโตของน้องๆ มีความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บ และสัมผัสสิ่งแวดล้อมต่างๆ ได้ง่าย เช่น การเกา วิ่งชนสิ่งของ และการเล่นกับน้องหมาตัวอื่นๆ หรือแม้กระทั่งขนของน้องๆ เองก็สามารถทิ่มแทงดวงตาได้เช่นกัน น้องๆ จึงมีอาการตาแห้ง ตาอักเสบ มีแผลที่กระจกตาและลูกตาหลุดออกจากเบ้า นอกจากนี้ยังพบปัญหาคราบน้ำตาสะสมสีน้ำตาลบริเวณใต้ตาอีกด้วย
ใบหน้าที่สั้นแบน และกรามบนสั้นกว่ากรามล่าง ทำให้ฟันล่างยื่นกับฟันบนไม่สบกัน เศษอาหารที่น้องหมากินเข้าไปจึงไปติดตามซอกฟัน สะสมเกิดเป็นแบคทีเรีย และหินปูนที่เกาะตามฟันซี่ต่างๆ ถ้าฟันน้องๆ ขาดการดูแลก็อาจทำให้น้องหมามีกลิ่นปาก เหงือก และฟันอักเสบ ยิ่งหากถ้าเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่กระแสเลือดจนติดเชื้อก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลยครับ ดังนั้นเราควรแปรงฟัน และลิ้นของน้องๆ เพื่อลดการเกิดแบคทีเรีย หินปูน และกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์ครับ
นอกจากปัญหาข้างต้นแล้ว กลุ่มน้องหมาหน้าสั้นมักจะมีปัญหาระบบทางเดินหายใจร่วมด้วย ระบบกรองอากาศภายในจมูกน้องๆ จะทำงานได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากความผิดปกติของปลายจมูกที่แคบเกินไป ทำให้รูจมูกตีบ และปิดบังทางเข้าออกของอากาศในขณะที่หายใจ คุณพ่อคุณแม่อาจจะสังเกตได้จากการหายใจติดๆ ขัดๆ นอนกรนเสียงดังและหายใจเข้าช้ากว่าหายใจออกครับ
เนื่องจากใบหูของน้องๆ พับลง และมีขนในช่องหูมาก ทำให้ช่องหูมีอากาศอับชื้น ทำให้การระบายสิ่งสกปรก และอากาศได้ไม่ดี จึงพบเชื้อแบคทีเรียเชื้อยีสต์อยู่บ่อยๆ และบางครั้งก็อาจพบไรหูร่วมด้วย ซึ่งอาจทำให้น้องๆ เป็นโรคหูน้ำหนวก ช่องหูส่วนนอกอักเสบ รวมไปถึงการติดเชื้อในหู น้องๆ อาจจะมีอาการสะบัดหัวบ่อย หูมีกลิ่นเหม็น มีของเหลวไหลซึมออกมาหรือเดินวนโซเซ ดังนั้นคุณเจ้าของควรหมั่นทำความสะอาดช่องหูน้องๆ เป็นประจำครับ
น้องชิสุห์เป็นน้องหมาพันธุ์ที่มีผิวหนังบอบบาง จึงทำให้เกิดอาการระคายเคือง แพ้ง่าย และมีอาการผิวหนังอักเสบตามด้วยขนที่มีเส้นเล็ก บาง และยาว ขนจึงเป็นคราบเหลือง และเป็นสังกะตังได้ง่าย ยิ่งน้องๆ ไปย่ำพื้นผิวที่มีความชื้นก็ยิ่งเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคจนเกิดผิวหนังอักเสบ ดังนั้นคุณเจ้าของควรดูแลผิวหนังให้ชุ่มชื้น และรักษาความสะอาดอยู่เสมอครับ
สอบถามเพิ่มเติมการดูแลน้องหมาได้ที่นี่ > https://bit.ly/Spectra_AddLine